4 วิธีเลือกลวดสำหรับการใช้งานเครื่องตัดไวร์คัท

เครื่องตัดไวร์คัท ตัดชิ้นงานด้วยลวด ช่วยลดต้นทุนการผลิต

เครื่องตัดไวร์คัท

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแวดวงของธุรกิจอุตสาหกรรมที่ต้องการผลิตชั้นงานจากวัสดุที่มีความแข็งมาก ๆ ประเภท อลุมิเนียม ทองแดง เป็นต้น และแน่นอนว่าหัวใจหลักสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างสมบูรณ์นั่นก็คือ เครื่องจักรกล ซึ่งเครื่องจักรกลมีหน้าที่สำคัญให้ด้านการผลิตสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกัด CNC เครื่องกลึง CNC เครื่องเจียระไน หรือ เครื่องตัดไวร์คัท เป็นต้น และบทความนี้จะพาทุกคนมารูจักกับเครื่องตัดไวร์คัท พร้อมวิธีเลือกลวดสำหรับการใช้งานเครื่องตัดไวร์คัท เพื่อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยนช์สำหรับใครที่กำลังสนใจจะสั่งซื้อเครื่องตัดไวร์คัทเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการผลิตชิ้นส่วนหรือสินค้าต่าง ๆ ในธุรกิจของคุณ 

เครื่องตัดไวร์คัท คืออะไร

เครื่องตัดไวร์คัท เรียกได้ว่าเป็นเครื่องจักรอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับขั้นตอนการผลิตแม่พิมพ์หลาย ๆ รูปแบบเช่น แม่พิมพ์ปั๊มโลหะ แม่พิมพ์หล่อขึ้นรูป และ แม่พิมพ์โลหะรูปแบบต่าง ๆอีกมากมายเพราะเป็นเครื่องจักรที่สามารถตัดงานด้วยความเที่ยงตรงขนาดสูงมาก สามารถควบคุมการตัดชิ้นงานได้เล็กกว่า 5 ไมครอน ซึ่งเครื่องตัดไวร์คัท มีหน้าที่ตัดชิ้นงานโดยการใช้ลวดเป็นเครื่องจักรที่อาศัยการเดินตัดของเส้นลวด (Wire) ที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตัวสะพานไฟ แล้วจ่ายไฟให้กับเส้นลวด โดยที่เส้นลวดจะเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องด้วยอัตราความเร็วที่เหมาะสม เคลื่อนที่ตามรูปที่กำหนดโดยระบบคอมพิวเตอร์ (CNC) ก่อนทำการตัดจะต้องกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ เกี่ยวกับการตัดที่แผงคอมพิวเตอร์ของตัวเครื่องตัดไวร์คัท

และสำหรับลวดที่จะนำมาใช้งานกับ เครื่องตัดไวร์คัท มีหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นลวดทองแดง ลวดทองเหลือง ลวดเคลือบสังกะสี และมีหลายระดับราคาให้เลือก โดยลวดแต่ละชนิดจะมีค่าทนแรงดึง (Tensile Strength) ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดของเส้นลวดที่จะนำมาใช้ตัดงาน สำหรับประเทศไทยจะนิยมใช้ลวด อยู่ 2 ขนาดคือ dia. 0.20 และ 0.25 มิลลิเมตร ซึ่งโรงงานบางแห่งใช้ 0.10 มิลลิเมตรทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ รัศมี (Radial) หรือ R ของมุมชิ้นงานที่ต้องการ ความเร็วตัดกัดเซาะ ความหยาบ ความเรียบของพื้นผิวชิ้นงาน ซึ่งเครื่องตัดไวร์คัทสามารถรองรับ dia. ของลวดไวร์คัทได้ ดังนี้

  • 0.10 มิลลิเมตร
  • 0.15 มิลลิเมตร
  • 0.20 มิลลิเมตร
  • 0.25 มิลลิเมตร
  • 0.30 มิลลิเมตร 

วิธีเลือกลวดสำหรับการใช้งานเครื่องตัดไวร์คัท

  1. ต้องดูที่วัสดุของชิ้นงานที่ต้องการผลิต
    สำหรับการใช้งานเครื่องตัดไวร์คัท ในแต่ละครั้ง ต้องคำนึงถึงวัสดุที่เลือกใช้มาผลิตชิ้นงาน เช่น วัสดุที่นำมาผลิตชิ้นงานที่มีความเป็นศูนย์ไฟฟ้าต่ำ อาจต้องใช้ลวดที่มีความต้านทานสูงเพื่อให้ได้ระบบควบคุมที่ดี หรือ วัสดุที่นำมาผลิตชิ้นงานที่มีความเป็นศูนย์ไฟฟ้าสูง อาจใช้ลวดที่มีความต้านทานต่ำกว่าเพื่อลดโอกาสในไม่ให้ชิ้นส่วนที่ต้องการผลิตบิดเบี้ยว เช่น ชิ้นงานที่วัสดุเป็นทองแดง ลวดที่นำมาตัดควรเป็นลวดทองเหลือง
    ชิ้นงานที่เป็นเหล็ก  ลวดที่นำมาตัดควรเป็นลวดทองแดง


  2. ขนาด หรือ ความหนาของวัสดุที่นำมาผลิตชิ้นงาน
    การเลือกลวดสำหรับเครื่องตัดไวร์คัทควรให้คำนึงถึงขนาดของวัตถุงานที่จะตัด รวมถึงความหนาของวัสดุงานด้วย เพราะความหนาของวัสดุที่นำมาผลิตชิ้นงานจะมีผลต่อเส้นผ่าศูนย์กลางของลวดที่ต้องใช้และความต้านทานที่สัมพันธ์กับกระแสไฟฟ้า ทางที่ดีควรคำนึงถึงขนาดของชิ้นงานให้เป็นอย่างดี เพื่อลดการสูญเสียของวัตถุงานในกระบวนการตัด

  3. ความรวดเร็วในการใช้เครื่องตัดไวร์คัทกับการตัดชิ้นงาน
    สำหรับงานที่ต้องการความเร็วของเครื่องตัดไวร์คัท ในการตัดควรเลือกลวดที่มีความหนาและขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัด เพราะการเลือกใช้งานลวดที่ใหญ่มากกว่าจะช่วยลดเวลาในการตัดและลดระยะในการตัดได้ดี

  4. งานที่ต้องการความแม่นยำสูง
    หากต้องการใช้งานเครื่องตัดไวร์คัทในการตัดหรือผลิตชิ้นงานที่ต้องการความละเอียดและแม่นยำสูง ควรเลือกใช้ลวดที่มีขนาดเล็กและความหนาน้อย โดยลวดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กจะช่วยให้ได้ระบบควบคุมที่ดีกว่าและลดความล่าช้าในกระบวนการตัดได้

 

และนี้ก็คือ วิธีเลือกลวดสำหรับการใช้งานเครื่องตัดไวร์คัท ซึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงมากที่สุดนั่นก็คือคุณภาพของผลลัพธ์ที่ต้องการ วัสดุของชิ้นงานและประสิทธิภาพในการตัด กรณีที่คุณไม่แน่ใจหรือต้องการความแนะนำเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายของเครื่องตัดไวร์คัท เพื่อให้ได้คำแนะนำที่แน่นอนเกี่ยวกับเครื่องตัดไวร์คัท และการเลือกใช้ ลวด ที่เหมาะสมสำหรับงานตัดในแต่ละรูปแบบ

บริษัท อิดดะ แมชชีน ทูลส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย เครื่องจักรอุตสาหกรรม อาทิ เครื่องกลึง (CNC Lathe) เครื่องกัด CNC เครื่อง CNC Milling เครื่องฉีดพลาสติก เครื่องตัดไวร์คัท เครื่องเจียระไน เครื่องตัดไฟเบอร์เลเซอร์ เครื่องเลื่อยสายพาน รวมถึงอะไหล่ และเครื่องมืออื่น ๆ คุณภาพมาตรฐาน ISO 9001 เรายังมีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญและทีมงานบริการหลังการขายที่พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่คุณในทุกขั้นตอน

Visitors: 62,258